ความท้าทายในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปี 2024-2025

นอกจากเรื่องปัจจัยบวกแล้ว ยังมีความท้าทายในการลงทุนอสังหาฯ เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนตั้งรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยมีปัจจัยในด้านต่าง ๆ ดังนี้  

1. ปัจจัยด้านต้นทุนที่สูงขึ้น

การเพิ่มขึ้นของต้นทุน ส่งผลทำให้ราคาของอสังหาฯ ในปีนี้เพิ่มสูงมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งจากต้นทุนของวัสดุก่อสร้าง การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ ภาวะเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน การขนส่งต่างๆ จึงทำให้ในปี 2024 นี้ ราคาของโครงการอสังหาฯ ต่าง ๆ มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นอย่างน้อย 5% หรือมากกว่า

2. ภาวะเงินเฟ้อ

ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซีย-ยูเครน โรคระบาด ปัญหาน้ำท่วม ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการทั่วโลกสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งกระทบถึงต้นทุนของการทำอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น ราคาของอสังหาฯ จึงสูงขึ้น จนอาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่น้อยลง

3. ราคาประเมินที่ดินใหม่ และราคาตลาดที่ดินที่เพิ่มขึ้นทุกปี

ดยกรมธนารักษ์ได้ประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง ตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 ทำให้ในปีนี้ ราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8.93% และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น 6.21%
นอกจากการเพิ่มขึ้นราคาประเมินราชการแล้ว ราคาตลาดที่ดินเองก็มีการปรับราคาขึ้นอยู่ตลอดทุกปี โดยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 3-5% ของปีก่อนหน้า จึงทำให้นักลงทุนอสังหาฯ อาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น


อัปเดตแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2024-2025

ตลาดอสังหาในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และนักลงทุน การทำความเข้าใจกับแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการลงทุนหรือเลือกที่อยู่อาศัย ซึ่งการอัปเดตแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2024-2025 มีดังนี้

ทำเลที่มีความต้องการเช่าสูง

ในปี 2024-2025 ทำเลที่มีศักยภาพสูงและได้รับความนิยมจากผู้เช่ายังคงเป็นพื้นที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถไฟฟ้า และย่านธุรกิจสำคัญ จากข้อมูลล่าสุดพบว่า เขตปทุมวันมีดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้นถึง 16% เนื่องจากเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้า ในขณะที่เขตวัฒนามีค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้น 13% ด้วยความเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์และแหล่งช้อปปิ้ง ส่วนเขตคลองสานมีการเติบโตของค่าเช่า 12% จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ และการเชื่อมต่อกับฝั่งพระนคร

นอกจากนี้ ยังมีทำเลอื่น ๆ ที่น่าจับตามอง เช่น พื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ อย่างสายสีชมพูและสายสีเหลือง รวมถึงย่านรอบนอกกรุงเทพฯ ที่กำลังพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ อย่างบางนาและรังสิต ไม่เพียงเท่านั้น เมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ ที่กำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ก็เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน

การปรับตัวของดัชนีค่าเช่า

แนวโน้มการเช่าที่อยู่อาศัยในตลาดอสังหายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยภาพรวมของดัชนีค่าเช่าในกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นถึง 9% ในช่วงปี 2024 แม้ว่าจะยังไม่กลับมาสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุนในตลาดอสังหา

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวของดัชนีค่าเช่ามีหลายอย่าง ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ทำให้ธุรกิจกลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การกลับมาของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติยังส่งผลให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการเติบโตของแรงงานรุ่นใหม่ กลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่เพิ่งเริ่มทำงานมีแนวโน้มเลือกเช่ามากกว่าซื้อ ประกอบกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายเส้นทางรถไฟฟ้าและถนนใหม่ ๆ ทำให้พื้นที่รอบนอกน่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของดัชนีค่าเช่าไม่ได้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอในทุกพื้นที่ นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเฉพาะของแต่ละทำเลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

ประเภทที่อยู่อาศัยยอดนิยม

ในปี 2024-2025 ตลาดอสังหาในประเทศไทยกำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงในความนิยมของประเภทที่อยู่อาศัย โดยคอนโดมิเนียมกำลังกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับความนิยมสูงเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19

โดยดัชนีค่าเช่าของคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่น เพราะคอนโดมิเนียมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และพื้นที่ส่วนกลาง ทำเลใกล้รถไฟฟ้าและแหล่งงานเป็นจุดขายสำคัญที่ดึงดูดผู้ซื้อและผู้เช่า
ในขณะเดียวกัน บ้านเดี่ยวยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่และผู้ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น โครงการในทำเลรอบนอกที่มีการคมนาคมสะดวกได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยแนวคิดบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) เริ่มมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อ

ทาวน์โฮมและทาวน์เฮาส์ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ลงตัวระหว่างคอนโดและบ้านเดี่ยว เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นและคนทำงานที่ต้องการพื้นที่มากกว่าคอนโด โครงการใหม่ ๆ เน้นดีไซน์ทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์มากขึ้น
แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคและการปรับตัวของตลาดอสังหาในประเทศไทย นักลงทุนและผู้ซื้อบ้านควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในระยะยาวและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

แหล่งข้อมูลอ้างอิงเนื้อหาจาก:
https://www.reic.or.th/
https://www.feasyonline.com/
https://www.lh.co.th/
https://www.ddproperty.com/
https://www.property-flow.com/
https://propholic.com/
https://www.reic.or.th/
https://www.ddproperty.com/